การใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิดอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของใครก็ตามที่เรารู้จัก รวมถึงตัวเราเองด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยการสนับสนุนและฝึกฝนการใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมใน พื้นที่ปลอดภัยบนเทคโนโลยี(Tech Safe Space) ได้
ความครอบคลุมในเทคโนโลยี
แม้ว่าการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ช่องว่างทางดิจิทัลยังคงอยู่ ซึ่งจำกัดการเข้าถึงและโอกาสสำหรับหลาย ๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการที่ผู้หญิงมีบทบาทที่ต่ำกว่าปกติ คิดเป็นเพียง 35% ของแรงงานด้านเทคโนโลยีในภูมิภาค
นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมามีการนำเทคโนโลยี มาใช้ในการกระทำความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของเพศหญิงทั้งในโลกออนไลน์และโลกออฟไลน์ ซึ่งสิ่งนี้ แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องปกป้องและส่งเสริมสิทธิสตรีในยุคดิจิทัล
สิทธิมนุษยชนและสิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผย
เทคโนโลยีในยุคปัจจุบันเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงออก การเซ็นเซอร์ออนไลน์โดยเจ้าหน้าที่จำกัดการเข้าถึงข้อมูล หรือการปิดกั้นความเห็นต่างนั้นล้วนเป็นเรื่องที่น่ากังวล
เหตุการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการปกป้องเสรีภาพในการแสดงออกบนโลกอินเทอร์เน็ต รวมถึงต่อต้านการเซ็นเซอร์ และการขัดขวางการทำงานของนักข่าวและผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ
มาตรา 19 ของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน "ทุกคนมีสิทธิในอิสรภาพแห่งความเห็น และการแสดงออกสิทธินี้ รวมถึงอิสรภาพในการที่จะถือเอาความคิด โดยปราศจากความแทรกสอด และที่จะแสวงหา รับและแจกจ่ายข่าวสารและความคิดเห็นไม่ว่าโดยวิธีใด ๆ และโดยไม่คำนึงถึงเขตแดน"
ข้อมูลที่ผิดและข้อมูลที่ถูกบิดเบือน
ข้อมูลที่ผิดคือการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องโดยไม่มีเจตนาบิดเบือน ในขณะที่ข้อมูลที่บิดเบือนคือการเผยแพร่ข้อมูลโดยเจตนาที่หลอกลวงและก่อความอันตราย
ทั้งสองอย่างสามารถถูกเผยแพร่โดยผู้กระทำหลายฝ่ายและมีผลกระทบร้ายแรง ได้แก่ :
- บ่อนทำลายสิทธิมนุษยชน
- ขัดขวางนโยบายสาธารณะ
- ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงวิกฤตหรือความขัดแย้ง
ชมวิดีโอแอนิเมชันจากแคมเปญ Tech Safe Space โดย UNODC เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความปลอดภัย และการใช้เทคโนโลยีอย่างรับผิดชอบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้